ชื่อเรื่อง รายงานการใช้แบบฝึกทักษะวิชาเคมีเพิ่มเติม เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอุเทนพัฒนา
ผู้ศึกษา นัฐวุฒิ
วิพรรณะ
ปีที่ศึกษา 2555
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์
1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ วิชาเคมีเรื่อง อะตอมและตารางธาตุ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75
2) เพื่อหาค่าดัชนี-ประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ วิชาเคมีเพิ่มเติม เรื่อง เรื่อง
อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาเคมีเพิ่มเติม เรื่อง
อะตอมและตารางธาตุ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียน
ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
4 ที่เรียนวิชาเคมีเพิ่มเติม เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ
ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
4
แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนอุเทนพัฒนา
อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ห้องที่ 3 จำนวน 42 คน
ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster - Random Sampling) ทำการศึกษาโดยใช้เวลาในชั่วโมงเรียนปกติ
20 ชั่วโมง ทั้งนี้ไม่รวมการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา มี 4 ชนิด คือ แผนการจัดการเรียนรู้
วิชาเคมี-เพิ่มเติม เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ
จำนวน 10 แผน แบบฝึกทักษะวิชาเคมีเพิ่มเติม เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
จำนวน 10 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยาก (p) .43 – .75
ค่าอำนาจจำแนก
(B) .21 – .63 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (rcc) .89
และแบบสอบถามความพึงพอใจ โดยใช้มาตราส่วนประมาณค่า (Rating
Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก
(rxy) .26 – .56 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (α) .85
ผลการศึกษาปรากฏดังนี้
1.
ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ วิชาเคมีเพิ่มเติม เรื่อง
อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 80.60/78.10 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ แสดงว่าแบบฝึกทักษะที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้
2.
ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ วิชาเคมีเพิ่มเติม เรื่อง
อะตอมและตารางธาตุ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เท่ากับ 0.7047
หรือคิดเป็นร้อยละ 70.47 แสดงว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ
มีความก้าวหน้าในการเรียน โดยคะแนนเพิ่มขึ้น
จากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3. คะแนนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาเคมีเพิ่มเติม
เรื่อง อะตอมและ
ตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
มีคะแนนก่อนเรียนเฉลี่ย เท่ากับ 10.33 และมีคะแนนหลังเรียนเฉลี่ย เท่ากับ 31.24 เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน
พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4.
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนวิชาเคมีเพิ่มเติม เรื่อง
อะตอมและตารางธาตุ
โดยใช้แบบฝึกทักษะ
มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x = 4.63) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด 16 ข้อ
มีความพึงพอใจระดับมาก 4 ข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่
เนื้อหามีความยากง่ายพอเหมาะ
(x = 4.83) ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดได้แก่
อ่านแล้วเพลิดเพลินมีประโยชน์ต่อนักเรียน (x = 4.21)
โดยสรุปการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
เนื่องจากแบบฝึกทักษะ สามารถกระตุ้นความสนใจ สนุกสนาน เพลิดเพลินกับการเรียน กระตือรือร้นกับบทเรียนมากขึ้น
รวมทั้งหากไม่เข้าใจสามารถทบทวนด้วยตนเองได้ตลอดเวลา
ดังนั้นแบบฝึกทักษะจึงเป็นเครื่องมือทางการศึกษา
ที่จะช่วยพัฒนาการเรียนการสอนของครู
และเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนนักเรียนได้อีกทางหนึ่ง
|