'หน้าเบี้ยวครึ่งซีก' ผลเส้นประสาทอักเสบ
|
'หน้าเบี้ยวครึ่งซีก' ผลเส้นประสาทอักเสบ
อาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีกเกิดจากเส้นประสาทเส้นที่ 7 ที่ควบคุมการทำงานกล้ามเนื้อแสดงสีหน้ามีการทำงานผิดปกติ ผู้ป่วยมักแสดงอาการค่อนข้างเร็ว บางรายเป็นแบบเฉียบพลัน เช่น
ตื่นเช้ามาพบว่าใบหน้าครึ่งซีกอ่อนแรงรู้สึกตึงหนักใบหน้าซีกนั้น
ตาปิดได้ไม่สนิท ยักคิ้วไม่ขึ้น บางรายปวดบริเวณหลังหู รู้สึกมีเสียงก้องๆ
และอาจพบความผิดปกติของการรับรสของลิ้นส่วนหน้าซีกที่เป็น
ส่วนใหญ่มักมีอาการมากขึ้นในช่วง 1-2 ชั่วโมงแรกจนถึง 1-3 วันแรก
แต่บางรายอาจมีอาการมากขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 14 วัน
พ.ญ.สิรารัตน์ โมรรัต อายุรแพทย์ระบบประสาท ศูนย์สมองและระบบประสาท ร.พ. พญาไท 2 อธิบายว่า อาการ
นี้เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่พบในหญิงอายุน้อยมากกว่าชาย
แต่หากอายุมากกว่า 40 ปีจะพบในชายมากกว่า
ในหญิงตั้งครรภ์พบมากกว่ากลุ่มอื่น 3 เท่า และพบได้ 4-5
เท่าในผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน เชื่อว่าเป็นการอักเสบของเส้นประสาทสมองเส้นที่ 7 ที่เกิดขึ้นภายหลังจากการติดเชื้อไวรัส
แต่บางรายเกิดจากการติดเชื้อเริมที่แฝงอยู่ในปมประสาท
ซึ่งกรณีนี้ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดและอาจมีตุ่มใสบริเวณรูหูส่วนนอกนำหน้ามา
ก่อน
นอกจากนี้อาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีกยังอาจเกิดก้อนในสมองหรือในโพรงกะโหลก
ศีรษะโต กดเส้นประสาทสมองเส้นที่ 7 นี้
|
|
โดยแพทย์สามารถแยกผู้ป่วยที่มีอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีกนี้ออกจากโรคเส้นเลือดสมองตีบ
ซึ่ง
มีอาการหน้าเบี้ยวได้เช่นกัน
แต่จะมีอาการแขนขาอ่อนแรงร่วมด้วยและผู้ป่วยยังยักคิ้วข้างที่เบี้ยวได้ให้
ตรวจเพิ่มเติม ได้แก่ การตรวจกราฟไฟฟ้าของเส้นประสาท การตรวจน้ำไขสันหลัง
การตรวจเอกซเรย์สมอง
'การรักษาโดยใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์สามารถลดการอักเสบของเส้นประสาทได้ รับประทานประมาณ 2 สัปดาห์
รับประทานยาต่อเนื่อง ยาป้ายตา ยาหยอดตา และใช้ผ้าปิดตาสนิทขณะนอนหลับ
เพื่อป้องกันการเกิดเยื่อบุตาอักเสบเนื่องจากอาการกะพริบตาที่ลดลง ยาฆ่าเชื้อไวรัส และการทำกายภาพ กระตุ้นด้วยไฟฟ้า'
โดยร้อยละ 80 ของผู้ป่วยมักจะหายดีในเวลา 4-6 สัปดาห์ ร้อยละ 10 จะมีอาการเบี้ยวที่ใบหน้าทั้งสองข้าง ร้อยละ 7 จะเกิดเป็นซ้ำได้
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ต้องคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
เนื่องจากยาสเตียรอยด์จะทำให้ระดับน้ำตาลขึ้นสูงจนเป็นอันตรายได้
ผู้ป่วยควรบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าโดยยักคิ้ว ปิดตาแน่น ยิงฟัน เป่าแก้มป่อง
หาก
มีอาการอื่นเพิ่มเติมทางระบบประสาท เช่น หน้าชา การได้ยินลดลง
อ่อนแรงหรือชาครึ่งซีก หรือมีอาการชาปลายมือและเท้า 2 ข้าง พูดไม่ชัด
เห็นภาพซ้อน เดินเซ ซึมลง สับสน หรือเป็นมากขึ้น ควรพบแพทย์เร็วขึ้น
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
|
โพสเมื่อ :
19 ก.ค. 2555,13:44
อ่าน 9538 ครั้ง
|